ตำนานพื้นบ้านท้าวคัชนามหรือคันธนาม
-------
โดย.ณ วงเดือน
ตำนานพื้นบ้านท้าวคัชนามหรือคันธนาม
-------
โดย.ณ วงเดือน
วัดขุมคำแห่งนี้ ติดถนนสายตระการ-เขมราฐ คือที่ตั้งของวัด พระเจ้าใหญ่ขุมคำ ซึ่งวัดนี้มีตำนานเกี่ยวข้องกับนิทานพื้นบ้านปรัมปรา ที่กล่าวถึง ตำนานท้าวคัชนาม หรือ คันธนาม ผู้วิเศษ ซึ่งในตำนานนี้ ได้กล่าวถึงหมู่บ้านตามรายทาง ที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดเป็นชื่อหมู่บ้านต่าง ๆ ตาม รายทางหลายแห่ง ตลอนเส้นทาง ที่ท้าวคัชนามเดินทางผ่านไป
วัดพระเจ้าใหญ่ขุมคำ มีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2508 ปีมะเส็ง ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 องค์พระสูงถึง 22 เมตร และมีขนาดหน้าตักกว้าง 11 เมตร แท่นพระกว้าง 6 เมตร ส่วนองค์พระโดยรวม 16 เมตร โดยในทุกๆ ปี ชาวบ้านจะถือเอาวันที่สร้างองค์พระนี้ เป็นวันจัดงานประจำปี มาจนถึงทุกวันนี้



นอกจากนี้ยังมีรูปหินโบราณคล้ายกำแพงของเมืองเก่า ไม่ทราบอายุสมัยว่าประมาณกี่ร้อยพันปีได้
และหินรูปร่างประหลาด เป็นแกนคล้ายกระดูกของงู มีอยู่หลายแท่ง ชาวบ้านบอกว่าเป็นกระดูกของงูซวงใหญ่ ทีถูกพระขรรชัย ของท้าวคัชนามตัดขาดเป็นท่อน ๆ และได้ตายกลายเป็นหินยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้
บริเวณลานหินหลายแห่ง มีรอยเท้าของพญาช้างสาร รอยเลื้อยของพญางู หลุมมันแซง ที่เป็นมันมีหัวขนาดใหญ่ ที่ถูกขุดขึ้นในสมัยท้าวคัชนาม






ไม่พบจึงได้เดินทางกลับบ้าน และอยู่ต่อมาได้เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งได้คลอดลูกออกมาเป็นชาย รูปร่างสวยงาม ที่เกิดมาพร้อมกับมีพระขรรชัย ติดตัวมาด้วย นางได้อยู่ดูแลเลี้ยงดูลูกชายจน อายุได้ 7 ขวบ ถูกเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันล้อเลียนว่า เป็นลูกไม่มีพ่อ เป็นลูกของช้างป่า ช้างดอย ทำให้เด็กน้อยเกิดความน้อยใจ อยากรู้ว่าพ่อ ตนเองเป็นใคร จึงได้รบเร้าถามมารดา ว่าพ่อของตนอยู่ที่ใหนเมื่อ ทนรบเร้าถามอยู่บ่อยๆ จึงได้บอกไปว่า พ่อตัวเองนั้นเป็นช้าง

ด้วยความคิดถึงอยากเห็นหน้าพ่อ ท้าวคัชนาม จึงได้ร่ำลามารดา ออกตามหาพ่อต่อไป จนมาถึงยังลานดินที่ตรงนี้ ได้ขุดหัวมันแซง ขึ้นมาเพื่อประทังความหิว ในขณะที่ขุดหัวมันขึ้นมาได้เพื่อนำมาทำเป็นอาหารอยู่นั้น ได้มีงูซวงใหญ่ ที่ดูแลรักษาบริเวณพื้นที่แห่งนี้ ได้ออกมาเพื่อจะทำร้ายท้าวคัชนาม ความที่มีพระขรรชัยวิเศษ จึงได้ฆ่าตัดงู ซวงออกเป็นท่อน ๆ แล้วจึงได้เดินทางต่อไป เมื่อจะเข้าไปยังป่าทึบเบื้องหน้า ปรากฏว่า มีนางยักษ์หม้าย ตนหนึ่งได้ออกมา เพื่อไม่ให้ท้าวคัชนามเดินผ่าน ยังพื้นที่ของตนเองที่ดูแลอยู่ จึงได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น แต่ด้วยความที่ท้าวคัชนามมีพระขรรค์วิเศษ จึงเอาชนะนางยักษ์ได้และ กำลังจะยกพระขรรค์ชัยขึ้นมาฆ่า นางยักษ์นั้นจึงได้อ้อนวอนขอชีวิต และเป็นทาสของท้าวเธอตลอดไป และได้ชี้บอกว่า ตนเองดูแลเฝ้าทรัพย์มีขุมทองคำอยู่จำนวนมหาศาล จะยกให้กับท้าวคัชชนาม ขอเพียงโปรดไว้ชีวิต เมื่อเห็นเป็นอย่างนั้นจึงได้ปล่อยชีวิตนางยักษ์ไปให้เฝ้าสถานที่แห่งนี้ต่อไป แล้วท้าวเธอก็ได้ ไปเอาทองคำ ตามที่นางยักษ์บอกไว้ ทำชะลอมเป็นขลุ เพื่อใช้หาบเอาทองคำนั้น เอาติดตัวเดินทางไปด้วย ด้วยความที่แบกคอนสายทองคำมามาก จึงได้แวะพักเหนื่อย ที่ตรงนั้นในทุกวันนี้ จึงได้เกิดชื่อเป็นหมู่บ้าน ตามมาว่า บ้านคอนสาย ในเขต อ.ตระการพืชผล และเมื่อเดินทางต่อมา จะเข้ามาถึงยังตัวเมืองอุบล ฯ

ยังมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับตำนานท้าวคัชนาม ที่ได้แต่งเรื่องไว้ตามที่ปรากฏในที่ต่างๆ ของทางภาคอิสาณ ซึ่งเรื่องดำเนินไปตามไม่แตกต่างกันมากนัก ใครมีความเชื่อหรือคิดเห็นเป็นเช่นไรก็ลองแวะเวียนผ่านไปเที่ยว ชมถึงความเป็นมากันได้ครับ ที่้วัดบ้านขุมคำ..ริมถนนสายตระการ- เขมราฐ ทางผู้เขียนผ่านไปแวะเที่ยวชม และเห็นประวัติมีเรื่องราวน่าสนใจจึงได้บันทึกไว้ในควาทรงจำใน หน้าที่ แห่งนี้ให้คงอยู่ในความทรงจำ ตลอดไป.. ณ วงเดือน
