10 เม.ย. 2561

สังขารไม่เน่าเปื่อย หลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

       สังขารไม่เน่าเปื่อย
       พระเกจิดังในอดีต

   หลวงพ่อย้อย      ปุญญมี  

วัดอัมพวัน  อ.เสาไห้  จ.สระบุรี

            ----------------
 โดย.. ณ  วงเดือน



         เมื่อปีหลายปีก่อนได้มีโอกาศไปกราบสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อย้อย ปุญญมี พระภิกษุผู้มีวัตรปฎิบัตรในกิจของสงฆ์เพียบพร้อมไปด้วยศีลาจารวัตรที่งดงาม อยู่เรียบง่ายสมถะ และเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้วไปทั้งในและนอกประเทศ ต่างก็รู้คุณกิตติศัพย์ของหลวงพ่อดี อีกทั้งเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสาระทิศ บันทึกการท่องเที่ยวขอ รวบรวมข้อมูลในที่ต่าง ๆ เพื่อมาลงไว้ได้อยู่ในความทรงจำและเป็นความรู้ที่ยั่งยืนตลอดไป 
     สำหรับประวัติหลวงพ่อย้อย ปุญญมี วัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี  ชื่อเดิม ย้อย นามสกุลชาติภูมิ เกิดวันที่ 1 ก.ค.2435 ปีมะโรง ที่บ้านโรงเหล้า (บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เชื้อชาติไทยสัญชาติไทย บิดาชื่อ นายนิ่ม เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ มารดาชื่อ นางแป๋ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธก่อนบรรพชาอุปสมบท อยู่บ้านโรงเหล้า(บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี


       จบการศึกษาประถมปีที่
4 พ.ศ.2452 ที่วัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา บรรพชาที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อ พ.ศ. 2452 อายุ 16 ปี เศษ มีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทที่วัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2456 อายุ 21 ปีมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์มีพระใบฎีกาโป๋ วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์มีพระใบฎีกานาค วัดสมุหประดิษฐาราม อำเภอเสาไห้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ดำรงตำแหน่งเป็นพระอธิการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ.2461 อายุ 26 ปี  


  ความเป็นมาของหลวงพ่อเท่าที่สืบหา  มาได้จากข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งทะเบียนพระภิกษุวัดอัมพวันตามรายละเอียดที่ปรากฎข้างต้นนี้ อาจารย์ผู้สั่งสอนเวทย์มนต์คาถา ตำราต่างๆ ให้แก่ท่านคือ หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นพระพระกรรมวาจาจารย์ ตอนที่ท่านอุปสมบทนั่นเอง หลวงพ่อย้อยเป็นพระภิกษุผู้ทรงศีล บริสุทธิ์ ที่เจริญด้วยเมตตาอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้พบท่านมาแล้วคงจะได้เคยเห็นว่าเวลาท่านฉันอาหารไม่ว่าเช้าหรือเพล
แทบจะกล่าวได้ว่าทุกเวลาที่ท่านฉันจะมี สุนัขและแมวล้อมรอบตัวท่านและสำรับกับข้าวของท่านจำนวนมาก ท่านไม่เคยไล่ให้หนีออกไปเลย ท่านฉันอาหารไป ท่านก็ให้อาหารสุนัข
                       แมวไปด้วยทุกครั้ง ยุงที่กัดท่านก็ไม่เคยที่กัดท่านไม่เคยถูกไล่หรือตี มีลูกศิษย์จะตีให้ก็ไม่ยอมให้ตีบอกแต่เพียงว่าเขาอิ่มแล้วเขาก็ไป คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของท่านก็คือ
ท่านไม่เคยขัดศรัทธาของผู้ที่ไปหาท่าน ต้องการให้ท่านทำ หรือช่วยอย่างไร ท่านทำให้ทุกอย่าง ท่านมีวิชาอาคมเวทย์มนต์คาถาแต่ใช้ในทางที่ถูกเท่านั้น ช่วยเหลือ,ป้องกันภัย 
ไม่ว่าจะลงกระหม่อม ทำน้ำมนต์อาบให้ หรือปลุกเสกเครื่องลางของขลังไว้ป้องกันตัวจากภัย อันตรายต่างๆ ที่ถูกผู้อื่นทำใส่ หรือที่เรียกว่า”คุณไสย” ท่านจะทำพิธีให้ทั้งนั้น
ไม่เคยขัดคำขอร้องของผู้ไปหาเลย อีกประการหนึ่งท่านมีประสาทหูเสีย (หูหนวก) จึงมีสมาธิดีกว่าปกติ เพราะไม่สามารถฟังเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียง ของขลังของท่านจึงศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธานุภาพมาก แม้กระทั่งว่าท่านเจ้าคุณพระมหานายก วัดบวรนิเวศ ลูกศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก
สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่าท่านสมเด็จพระญาณสังวร ทรงมีและคาดตระกรุดหลวงพ่อย้อยที่เอวท่านประจำ ปรากฏการณ์ ผลศักดิ์ สิทธิ์และ
อภินิหารเป็นที่เลื่องลือในบรรดาลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ได้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว  นี่ก็เป็นบันทึก เรื่องราวเกี่ยวกับหลวงพ่อย้อย ปุญญมี  

         กระทั่งปี 2525 หลวงปู่ย้อยเกิดล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ จึงส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ศิริราช แต่ในที่สุดท่านได้มรณภาพลงเมื่ออายุ 93 ปี 72 พรรษา  เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2525 
บันทึกการท่องเที่ยวจึงขอนำข้อมูล ในที่่าง ๆ ที่ได้รับรู้มาลงบนทึกไว้เป็นข้อมูลเพื่อได้รับความรู้และเป็นพลังศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อ ที่ได้มีคุณคณานับประการต่อสาธุชนทั่งหลาย และได้เป็นข้อมูลให้คงอยู่ตลอดไป..

                                                                         ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น