สถานีรถไฟแห่งแรกของประเทศไทยสถานีหัวลำโพง
โดย.ณ วงเดือน
นานมาแล้วที่ทางผู้เขียนไม่เคยได้ใช้บริการ โดยสารขนส่งรถไฟเลย จนถึงวันนี้ก็หลายสิบปีทีเดียว วันนี้ได้ ผ่านมาที่สถานีใหญ่ต้นทางคือสถานีรถไฟกรุงเทพมหานคร หรือที่ชาวบ้านเรียก สถานีรถไฟหัวลำโพง จึงขอมานำเอาความเป็นมาและบรรยากาศที่สถานีรถไฟหัวลำโพง แห่งนี้ มาให้ชมความเปลี่ยนแปลงจากอดีต
สู่ปัจจุบันว่าเหมือนเดิมหรือแตกต่างจากอดีตแค่ใหน และได้รู้ความเป็นมาของสถานีต้นทางแห่งนี้ ก่อนที่จะกลายเป็นตำนาน และย้ายไปอยู่ที่บางซื่อ ในอนาคตอันใกล้นี้ สถานีรถไฟกรุงเทพ แต่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นสถานีรถไฟแห่งแรก ของไทยเรา ถือเป็นสถานีที่เก่าแก่ที่สุด เริ่มก่อสร้างขึ้นในปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 มีพื้นที่บริเวณ 120 ไร่ จนในปี พศ. 2453 ทำการก่อสร้างเสร็จและเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 6
โดยในปัจจุบันปี 2562 นี้สถานีรถไฟหัวลำโพง ยังสามารถเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ได้บริเวณด้านหน้าติดถนนพระราม 4 ในการก่อสร้างสถานีเป็นแบบทางสถาปัตยกรรมที่ มีลักษณะโดม สไตล์อิตาเลียนผสมกับศิลปะแบบ เรอเนสซองซ์ กรีก-ผสมโรมัน เหมือนกันกับสถานีรถไฟแฟรงก์เฟิร์ด ในประเทศเยอรมันนี ประดับด้วยหินอ่อน และเพดานมีสลักลายนูน ต่าง ๆ มีนาฬิกาขนาดใหญ่รัศมี 80 เซนติเมตร ตั้งอยู่กลางสถานีรถไฟเป็นสัญลักษณ์แห่งหนึ่งสถานีนี้สถานีรถไฟหัวลำโพงแห่งนี้
เป็นสถานีให้บริการขนส่งสินค้า และขนส่งผู้โดยสารทั่วไป มีอายุครบ 103 ปี เมื่อ วันที่ 25 มิถุนายน 2562 ที่ผ่านมา
โดยทีทำการอาคารสถานีรถไฟหัวลำโพง ด้านในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ หลังคาโค้ง มีระเบียงยาวไปตลอดทางเดินมีความสวยงามโดดเด่นเป็นอย่างมากคือ
กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ
ทั้งด้านหน้าและด้านหลังซึ่งประดับไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคาร
เช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาซึ่งติดตั้งไว้กลางส่วนโค้งของอาคารด้านในและด้าน นอก
โดยเป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นพิเศษเป็นการเฉพาะ ชั้นล่าง
ยังมีร้านขายอาหารเครื่องดื่ม ด้านหน้าของที่ทำการ
จำหน่ายตั๋วมีจอทีวีขนาดใหญ่ ให้กับประชาชนได้ดู เพื่อการประชาสัมพันธ์ ให้ผู้โดยสารทราบในเรื่องต่าง ๆ นอกจากยังมีระเบียงด้านบนภายในสถานี
มีร้านกาแฟที่ผนังด้านซ้ายและขวาของสถานีกรุงเทพมีภาพเขียนสีน้ำ
เป็นภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ของประเทศ อาทิพระบรมมหาราชวัง ตลาดน้ำ เขาวัง ภูกระดึง หาดสมิหลา นอกจากนี้ที่ด้านหน้าสถานีมีสวนหย่อมและน้ำพุสำหรับประชาชน
โดยข้าราชการรถไฟ
ได้รวบรวมทุนทรัพย์จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ
อุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระพุทธเจ้าหลวง อนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูป “ช้างสามเศียร”
มีพระบรมรูปของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แกะสลักเป็นภาพนูนสูงประดิษฐานอยู่ด้านบน
ในทุกวันนี้ สถานีแห่งนี้ มีบริการ เส้นทาง ขึ้นไปสู่ภาคต่าง ๆ ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก 4
เส้นทาง ดังนี้ คือ สายขึ้นสู่ภาคเหนือ สิ้นสุดปลายทางที่
เชียงใหม่ ระยะทาง 751.42 กม.
,สายภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่อิสาน มีแยกสถานีชุมทางถนนจิระ
ออกเป็น 2 สาย คือปลายทาง อุบลราชธานี ระยะทาง
575.10 กม. และอีกปลายทาง สู่ิจ.หนองคาย ระยะทาง 621.10
กม. และ อีกสาย คือสู่ภาคตะวัน
ปลายทางแยก 2 เส้นทาง คือสิ้นสุดที่
อรัญประเทศ จ.ปราจีนบุรี
ระยะทาง 254.50 กม. และปลายทางที่บ้านพลูตาหลวง อีกระยะทาง 184.03 กม.ดินรถไฟลงสู่ภาคใต้
จะเริ่มต้นทางที่สถานีกรุงเทพ และสถานีธนบุรี เมื่อถึงสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้ว
ก็จะแยกออกเป็น 2 สาย ปลายทาง คือสถานีบัตเตอร์เวอร์ธ
ปลายทางประเทศมาเลเซีย ระยะทาง 973.84 กิโลเมตร และอีกปลายทางสถานี คือสถานีสุไหง-โกลก ระยะทาง 1,142.99 กม.
ในอนาคต
สถานีรถไฟหัวลำโพงแห่งนี้จะปิดทำการเป็นพิพิธภัณฑ์ การเรียนรู้ ของประชาชน
ด้านประวัติศาสตร์ของการรถไฟ
เมื่อทำการก่อสร้างสถานีรถไฟแห่งใหม่สำเร็จ ที่สถานีบางซื่อ ใกล้กับขนส่งหมอชิตใหม่
ในปัจจุบันนี้นั้นเอง ซึ่งก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ และจะเป็นศูนย์กลาง
ขนส่งแห่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยยกระดับ
เป็นสถานี แกรนต์ สเตชั่น เลยทีเดียวทั้งยังเป็นต้นทาง
ของรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมทั้งจะเป็นชุมทางไปสู่ภูมิภาคต่าง
ๆ ของไทยเรา บันทึกท่องเที่ยว จึงนำมาลงบันทึกไว้
ให้อยู่ในความทรงจำต่อไปและเป็นข้อมูลความรู้ ของผู้เขียนด้วยซึ่งในอนาคต
ที่นี่จะกลายเป็นอดีตในความทรงจำต่อไป..
@@@@@@@@@@@@@@@@@@