หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร เขคสัมพันธวงศ์ กทม.
โดย.ณ วงเดือน
พระพุทธรูปทองคำแท้ ทองเนื้อเจ็ดน้ำสองขา ที่มีน้ำหนักถึง 5.5 ตัน และใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งความเป็นมาของ พระพุทธรูปองค์นี้ ได้มาอย่างน่าเหลือเชื่อ
ก่อนอื่น มาดูถึงการตั้งวัดไตรมิตรก่อน สมัยแต่โบราณนานมา เดิมชื่อว่า วัดสามจีน อยู่ติดกับถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เชื่อกันว่า ชาวจีน 3 คนเป็นผู้ร่วมใจกันจัดสร้างวัดนี้มา ในปี พ.ศ.2477 พระมหากิ๊ม สุวรรณชาติ รก.เจ้าอาวาส เริ่มปรับปรุงวัดและได้ เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับ ได้อนุมัติเป็นวัดจากมหาเถรสมาคม ใน ปี พ.ศ. 2480 จนต่อมาประชาชนและคณะครูนักเรียนของทางวัดได้ร่วมกัน บูรณะวัดจัดสร้างเสนาสนะ เพิ่มขึ้น จึงได้ขอเปลี่ยนชื่อนามวัดใหม่ ว่าวัดไตรมิตรวิทยาราม
ส่วนพระทองคำองค์ใหญ่ นี้ แต่เดิมนั้นได้ถูกปิดทับด้วยปูน ดินพอกเหนียว ทั้งองค์ และได้ทำการลงรักปิดทองไว้ทั่วทั้งค์องค์ และทราบก่อนจะมาอยู่ที่วัดแห่งนี้ เคยได้ตั้งประดิษฐาน อยู่ที่วัดพระยาไกร มาก่อน ซึ่งในสมัยต่อมาได้เป็นวัดร้าง ไม่มีพระเณรอยู่อาศัย และมี บริษัทเอกชนจะขอเช่าพื้นที่วัด พอดีในช่วงนั้น ทางคณะสงฆ์ จึงขอให้ทางวัดไตรมิตร และวัดไผ่เงินโชตนาราม ไปอัญเชิญพระพุทธรูปสำริด และพระที่มีอยู่ในวัดพระยาไกรนั้น เอาไปดูแลรักษา ซึ่งในส่วนพระที่เป็นสำริด วัดไผ่เงินเอาไป เหลือไว้แต่พระปูนปั้นลงรักปิดทองซึ่งทางวัดไตรมิตร ได้ขนย้ายมาด้วยเกวียนสมัยนั้น ทำให้ปูนหุ้มองค์พระแตกเป็นเพียงรอยร้าวแยก ดูไม่สวยงามแต่อย่างใด จึงได้พียงสร้างเพิงธรรมดา มุงสังกะสี แค่บังแดดบังลมฝนเท่านั้น นานถึงกว่า 20 ปี
จนต่อมา ในปี พ.ศ.2497 ทางวัดได้มีการจัดสร้างวิหารขึ้นใหม่ เพื่อจะเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อ ขณะทำการเคลื่อนย้ายมายังวิหารหลังใหม่ ทำให้เชือกผูกองค์พระขาด และพระได้ตกลงพื้น ทำให้รอยร้าวที่แตก ได้กะเทาะหลุดออกมาเผย ให้เห็น ช่วงอกพระพุทธรูป ส่องสีทองอำไพเมื่อกะทบกับแสงแดด เผยให้เห็นเนื้อทองคำบริสุทธิ์แท้ เจ้าอาวาสสมัยนั้นจึงได้สั่งให้พวกช่างที่พากันขนย้ายนั้น ให้พากันเลาะปูนพอก ออกทั้งองค์ และประดิษฐานที่วิหารนั้นมานานจนถึงปี พ.ศ.2550 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้โปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างพระมหามณฑป พระพุทธมหาวุวรรณปฎิมากร เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5ธันวาคม 2550 แทนวิหารองค์เดิม ซึ่งคับแคบ จนมาแล้วเสร็จใน ปี พ.ศ.2552 มูลค่าในการก่อสร้างทั้งสิ้น 850 ล้านบาท ซึ่งมหามณฑปใหม่ มีด้วยกัน 4 ชั้น โดยบนสุด เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อทองคำ หรือเรียกชื่อเต็มว่า พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ส่วนมหามณฑป ชั้นที่ 2-3 นั้น ใช้เป็นศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ไทย-จีน ภายในมีการจัดแสดงเรือสำปั้นหัวแดงจำลอง และข้าวของเครื่องใช้ สมัยก่อน ส่วนในชั้นที่ 3 เป็นห้องจัดแสดง ความรู้เกี่ยวกับประวัติของหลวงพ่อทองคำ นั้นเอง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น