12 ต.ค. 2563

อุทยานสวนแก้วกู่​ อ.เมือง​จ.หนองคาย

โดย.ณ​วงเดือน

      บันทึกเที่ยว ในความทรงจำ ได้มีโอกาศมา จ.หนองคาย และได้แวะเยี่ยมชม อุทยานเทวาลัย ศาลาแก้วกู่ ตั้งอยู่ในชุมชนสามัคคี อ.เมืองหนองคาย จึงขอบันทึกไว้อีกเรื่องราวไว้เป็นความทรงจำ ดีๆ ที่ได้มาเที่ยวชมที่แห่งนี้

สถานที่แห่งนี้ ถือเป็นอีกแห่งที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของผู้คน ที่มาเที่ยวยังเมืองหนองคาย มักจะมาเที่ยวชมกันมาก เพราะอยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคาย แค่ 3 กม.เท่านั้นเอง


อุทยานเทวาลัยหรือชาวบ้านเรียกว่า วัดแขกแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้ง ที่มีสิ่งก่อสร้างด้วยอิฐปูน ปั้นสูงตระหง่าน กับรูปเทพต่าง ๆ ทั้งไทยพุทธ คริสและฮินดู บนเนื้อที่ กว่า 42 ไร่ เริ่มก่อสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2521
สร้างขึ้นมาด้วยความเชื่อและศรัทธา ของปู่ บุญเหลือ สุรีรัตน์ ที่ท่านเชื่อว่าทุกศาสนาผสมผสานกันได้ ต้องการให้อุทยานเทวาลัย หรือศาลาแก้วกู่ เป็นดินแดน  สถานที่แห่งการหลุดพ้น  จากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง


ในการเข้าไปเที่ยวชมยังอุทยานเทวาลัย แห่งนี้ เปิดทำการแต่เวลา 06.00 น. ถึงเวลา 18.00 น. ของทุกวัน มีค่าใช้ธรรมเนียมเข้า ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
สถานที่แห่งนี้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้ง ที่ผู้คนมักพาบุตรหลานมาเดินเที่ยวชม ออกกำลังไปในตัว


เดินเข้ามาด้านใน พบกับศิลปะปูนปั้นรูปแบบต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับตำนานทางพุทธศาสนา มีการปั้นเรื่องราว ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน เป็นหลัก


รูปปั้นพญานาคราช 7 เศียร ครั้งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ฝนตกหนักท่านได้มาแผ่เบี้ยพังพาน เพื่อบังสายฝนที่ตกหนัก ไม่ให้พระองค์ต้องลมและสายฝน เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ดูมีความเข้มขลังอีกที


นอกจากนี้ยังมีรูปพระโพธิสัตว์ วิมลเกียรติคฤหบดีผู้แตกฉานในอรรถธรรมญาณในกาลครั้งหนึ่ง ได้เกิดอาพาธ จึงได้นิมนต์พระพุทธเจ้าให้ไปเยี่ยมไข้
ทำให้พระองค์เสด็จไปเยี่ยม และได้หายป่วยเป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่ได้ปั้นไว้เป็นความรู้แก่ผู้คน

ด้านในอุทยาน ยังมีการปั้นรูปของ เจ้าแม่นาคี ที่เคยโด่งดังจากทีวี ช่องหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ก็มีปั้นไว้นานแล้วที่นี่ นอกจากนั้นยังมีรูปพระแม่เทวีต่าง ๆ ตามตำนานความเชื่อทั้ง ในศาสนาพราหมณ์ และฮินดู ปางต่าง ๆ กัน ตามเรื่องราวในเรื่องของรามเกียรติ์อีกด้วย
อีกด้านหนึ่ง มีการปั้นแต่งเป็นรูปปั้นปริศนาของชีวิต นั้นคือ พระกาลซึ่งปั้น เป็นรูปปากอ้ากว้าง ที่กลืนกินทุกทรรพสิ่งให้หายไปตามกาลเวลา


อุทยานกลางแจ้ง มีทางเดินชมปฎิมากรรมรูปปั้นตามทางเดินทะลุถึงกันได้ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ อย่างลงตัว


รูปปั้นเทพและพระพุทธรูปปูนปั้นเปลือย แบบเรียบง่ายแต่มีความ สวยงามโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถือเป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้
ศาลาแก้วกู่แห่งนี้ สามารถมาได้หลายเส้นทาง ทั้งจากทางหลวง หมายเลข 212  มุ่งหน้าไปทาง อ.โพนพิสัย อุทยานเทวาลัยนี้ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน ซึ่งจะเห็นป้ายบอกทางมา ยังศาลาแก้วกู่  อย่างชัดเจน เลี้ยวเข้าไปจากถนนใหญ่แค่เพียง 500 เมตร เท่านั้นก็จะพบลานจอดรถ และร้านค้าขายของที่ระลึกด้านหน้าทางเข้า


บันทึกเที่ยว ในความทรงจำ ได้มาเที่ยวชม และมีความประทับใจ ในที่แห่งนี้ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่มาเยือนแล้วทำให้เกิดความทรงจำดี ๆ จึงขอบันทึกไว้เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งในที่แห่งนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น