เมื่อหลายปีก่อนได้ขับรถผ่านไปยังถนนเส้น ตำบลมาบแค อ.เมืองนครปฐม เลยถือโอกาศแวะเข้ากราบหลวงพ่อทา แห่งวัดพะเนียงแตก พระเกจิชื่อดังในสมัยก่อน ซึ่งท่านเป็นผู้ที่คนให้ความเคารพเลื่อมใส ศรัทธามิได้ขาดจนปัจจุบัน ยังมีสาธุชนหลั่งไหลมากราบไหว้ขอพร อยู่เสมอมา
วัดพะเนียงแตก สร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.2334 ตั้งอยู่บ้านหมู่ 4 ต.มาบแค เดิมชื่อวัดปทุมคงคา พื้นที่โดยรอบของวัดมีเนื้อที่ 44 ไร่ 40 ตรว. จนต่อมาได้ชื่อวัดพะเนียงแตกนั้น ก็มีสาเหตุความเป็นมาดังนี้
ในสมัยที่หลวงพ่อทา อยู่ที่วัดพะเนียงใหม่ ๆ ท่านชอบเล่นพลุไฟพะเนียง ในงานบุญเทศกาลประจำปีของวัด ซึ่งในขณะที่ท่านเอามือไปปิดปากพลุ ไม่ให้พลุออกมาทางปากกะบอกขณะนั้นจึงทำให้ พลุพะเนียงลูกนั้นแตกระเบิดใส่ท่าน แต่ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลยซึ่งท่านทำเช่นนั้น เพื่อต้องการให้พวกนักเลงหัวไม้ได้เกรงขาม เพื่อจะได้ให้เชื่อฟัง และปกครองและอบรมให้เป็นคนดีต่อไป จนต่อ ๆ มาในทุกปีงานเทศกาลของทางวัด ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นสักคราวเดียว จนชาวบ้านได้ให้ฉายาท่านว่า หลวงพ่อพะเนียงแตก และเรียกชื่อวัดต่อมา ว่าวัดพะเนียงแตก ตามมาด้วย
หลวงพ่อทา ท่านเป็นชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เกิดในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่ออายุได้ 15 ปี ได้บรรพชา เป็นสามเณร ที่วัดโพธาราม มีหลวงพ่อทาน เจ้าอาวาสสมัยนั้นเป็นผู้บวชให้ จนกระทั่งอายุครบอุปสมบท เป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2386 ที่วัดบ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
จากนั้นได้ตั้งใจเล่าเรียนพระธรรมวินัย และฝึกวิปัสสนากรรมฐาน แล้วท่านจึงออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ เป็นเวลาหลายปี จนท่านเดินธุดงค์มาถึงวัดพะเนียงแตก แห่งนี้ในช่วงปีประมาณ พ.ศ.2417 ขณะท่านอายุได้ 51 ปี และตกลงใจที่จะอยู่จำพรรษาที่วัดเล็ก ๆ แห่งนี้มาแต่ครั้งนั้น
หลวงพ่อทา ท่านได้อยู่และพัฒนาวัด จนเจริญรุ่งเรือง มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ต่างทราบกิติศัพย์บารมีของท่าน ต่างก็มากราบไหว้สักการะ ถึงที่วัดท่านอยู่เนื่อง ๆ จนมาถึง ปี พ.ศ.2462 ( รศ.138 ) ปีมะแม หลวงพ่อท่านได้แก่ชราภาพมาก ได้มรณะภาพลงอย่างสงบ สิริอายุ ได้ 96 ปี พรรษา 76
ในการได้มากราบรูปเหมือนหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ในครั้งนั้น ทางวัดกำลังจัดสร้าง หลวงพ่อทาองค์ใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 15 เมตร สูง 19 เมตร หล่อด้วยเนื้อทองเหลือง ซึ่งช่วงเวลาที่ไปปีนั้น กำลังหล่อเสร็จแล้ว ส่วนเศียรถึงไหล่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น